11/14/2552

สูตรสมุนไพรบำรุงผิวหน้า


ว่านหางจระเข้ : บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ รักษาสิว
แตงกวา :สมานผิว ลบรอยเหี่ยวย่น
มะเขือเทศ : สมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ
ขมิ้นสด : บำรุงผิวหน้าผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว
กล้วยน้ำว้าสุก : บำรุงผิวนุ่มเนียนอ่อนไว
หัวไชเท้า : ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางหาย
ใบบัวบก : ลดรอยตีนกา
มะขามเปียก : บำรุงผิวหน้าขาวเนียน ลดรอยฝ้าจุดด่างดำ ชำระล้างสิ่งสกปรก
กล้วยหอม : ลดรอยเหี่ยวย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น
ทุเรียน : ลดปัญหาสิวเสี้ยน
มะนาว : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้า
มะม่วงสุก : แก้ปัญหาฝ้าและสิว
แครอต : บำรุงผิวหนแต่งตึงสดใส
มะเขือเทศ: รักษาสิวหัวดำ ป้องกันรูขุมขนอุดตัน ทำความสะอาดผิวหน้า
สับปะรด : บำรุงผิวหน้าขาวใส และช่วยขจัดเซลล์ตายให้หลุดลอก
แตงโม : บำรุงผิวหน้าชุ่มชื่นสดใส

สมุนไพรลดคอเลสเตอรอล


จากสถิติขององค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าประชากรทั่วโลกกว่า 7 ล้านคนต่อปี ต้องเสียชีวิตด้วย โรคหัวใจและหลอดเลือด ในขณะเดียวกันประเทศไทยมีการค้นพบว่า มีประชากรเกินกว่าร้อยละ 50 ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินกว่าปกติ และเกินกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และพบว่ามีการเสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 7 คนต่อชั่วโมง หรือคิดเป็น 61,320 คนต่อปี โดยโรคหัวใจและหลอดเลือดถือเป็นโรคอันดับสองที่คร่าชีวิตคนไทยรองจากโรคมะเร็ง

คอเลสเตอรอล (Cholesterol) เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย และในอาหารที่บริโภค มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย เช่น นำไปสร้างเป็นน้ำดีช่วยย่อยไขมันที่ได้รับจากอาหาร นำไปสร้างฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย และเป็นต้นกำเนิดของวิตามินดี

นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนประกอบ?ของโครงสร้างผนังเซลล์ แต่ถ้าร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินไป ก็จะถูกนำไปเก็บไว้ที่ใต้ผนังหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุที่จะทำให้หลอดเลือดแดงแข็งและหลอดเลือดแดงตีบและอุดตันได้

ขณะที่ถ้าเป็นหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ก็จะทำให้หัวใจล้มเหลวแบบเฉียบพลัน จนเสียชีวิตได้ ซึ่งอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงคือ อาหารที่มีส่วนประกอบของไข่แดง เครื่องในสัตว์ มันสัตว์ อาหารทะเลบางชนิด เช่น กุ้ง ปลาหมึก ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

รศ.ดร.ปรียา ลีฬหกุล จากสำนักงานวิจัยคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การรับประทานอาหารเจในบางเมนูที่มีไขมันหรือแป้ง เช่น แกงกะทิ หรือของทอดที่มีน้ำมัน อาหารประเภทที่มีแต่แป้งก็จะทำให้มีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้นได้ หรือบางรายก็อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นซึ่งสุดท้ายก็จะทำให้มีคอเลสเตอรอลสูงตามมา ดังนั้นผู้ที่กินเจจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว

อาหารเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด โรค มีแนวทางในการเลือกอาหารที่มีปริมาณ คอเลสเตอรอลต่ำ และจากการประกวดเมนูลดคอเลสเตอรอล ในโครงการ เมนูอาหารใส่ใจคอเลสเตอรอล ซึ่งจัดประกวดโดย บริษัท ไฟเซอร์ มีเมนูที่ชนะเลิศการประกวด มานำเสนอ ซึ่งเป็นอาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร

เมนูคอเลสเตอรอลไขมันต่ำ นั่นคือ ข้าวหมกไก่คั่วตะไคร้ กับแสร้งว่าปลาช่อน ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่น มืออาชีพ โดยเคล็ดลับอยู่ตรงข้าวที่หุงจะใช้นมพร่องมันเนยแทนการหุงด้วยน้ำ ใส่กระเทียมลงไปผัดในน้ำมัน แล้วใส่ข้าวที่หุงเสร็จลงไปผัด ใส่เกลือและผงกะหรี่ลงไป สำหรับไก่คั่วตะไคร้ก็จะใช้ไก่ที่ไม่ติดมัน หั่นบาง ๆ ผัดกับตะไคร้ เติมเกลือและพริกไทยลงไป

ส่วน แสร้งว่าปลาช่อน นั้นมีส่วนผสมของปลาช่อนสุก ขิงหั่นฝอย ตะไคร้ หอมแดง พริกขี้หนู ใบมะกรูด น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ลงคลุกให้เข้ากัน ทั้งอร่อยและไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลต่ำ

อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่น ?บุคคลทั่วไป คือ เมนู ซาบะกลางดง ซึ่งมีจุดเด่นคือ ใช้ปลาซาบะย่างเอาหนัง ออกมีไขมันต่ำ มีไอโอดีน พร้อมสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งสมุนไพรเหล่านั้นก็มี ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกไทยสด มะนาว หอมแดง กระเทียม กะหล่ำปลีหั่นฝอย มะม่วงเปรี้ยว ซอสมะเขือเทศ วิธีทำ นำมะนาวมาบีบเอาน้ำผสม น้ำปลาน้ำตาลปี๊บ ซอสมะเขือเทศ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นปลาซาบะลงคลุก ให้เข้ากัน นำปลาซาบะจัดวางลงในจานพร้อม ข้าวสวย 1 ถ้วย เวลาทานนำเครื่องปรุงทั้งหมดราดลงบนตัวปลา นอกจากนี้ยังมีเมนูปราศจากคอเลสเตอรอลอีกมากมาย อาทิ เมนู ?วุ้นเส้นผัดขี้เมาปลากะพงสด

11/13/2552

สมุนไพรรักษาสิว

สิวเป็นโรคเรื้อรัง พบบ่อยมากเป็นอันดับต้นๆ ของปัญหาโรคผิวหนัง มักเป็นในวัยรุ่น แต่บางครั้งเลยวัยรุ่นไปแล้วก็อาจเป็นได้ ลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นสิวคือ เป็นเม็ดสิวอุดตันที่เรียกกันว่า คอมมิโดน ถ้าเป็นเม็ดนูนเล็กๆ ไม่มีรูเปิดเรียก สิวหัวขาว ถ้ามีรูเปิดที่ผิวหนังมองเห็นเป็นจุดดำอยู่ตรงกลางเรียกสิวหัวดำ นอกจากนี้อาจเกิดเป็นตุ่มนูนเล็กๆ แดงๆ อาจเห็นเป็นตุ่มหนอง ,หรือตุ่มนูนแข็งเม็ดโต หรือตุ่มแดงอักเสบแบบถุงซีสต์ที่เรียกกันว่า สิวหัวช้าง สิวที่สร้างความวิตกมากคือ สิวบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่พบบ่อย ในบางรายอาจเกิดบริเวณ คอ , หลัง, อก, สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ฮอร์โมนเพศ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ต่อมไขมันโตเต็มที่ผลิตน้ำมันมากขึ้น ท่อของต่อมไขมันหนาตัวมีการอุดตัน น้ำมันระบายออกไม่ได้คั่งค้างอยู่ภายใน เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บริเวณนี้แบ่งตัวเพิ่มขึ้น ย่อยสลายไขมันทำให้เกิดความระคายเคือง และท่อต่อมไขมันแตกออก กรดไขมันออกสู่บริเวณข้างเคียงเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้น ความรุนแรงของสิวแต่ละคนแตกต่างกันไป บางรายเป็นมากบางรายเป็นน้อย สิวอักเสบอาจกำเริบได้ในช่วงมีความเครียด เช่น อดนอน หรือในผู้หญิงช่วงใกล้มีประจำเดือน นอกจากนี้การบีบแกะสิว จะกระทบกระเทือนและนำเชื้อโรคเกิดการอักเสบมากขึ้น และมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นเมื่อสิวหายแล้ว

สิวแบ่งเป็น 2 ชนิด
1.สิวไม่อักเสบ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน (COMEDONE) แบ่งเป็น 2 ชนิด
1.1 สิวหัวปิด เห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ หัวขาว ๆ
1.2 สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ
2.สิวอักเสบ คือสิวที่หัวแดง ๆ หรือ เป็นหนอง พวกนี้ก็คือ (COMEDONE) ที่มีการติดเชื้อ(BACTERIA) แทรกซ้อน
ดังนั้น ถ้าเป็นสิวอักเสบ การทำความสะอาด ใบหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และการป้องกันไม่ให้มีการอุดตันที่รูขุมขน
(COMEDONE) โดยการใช้น้ำเปล่าล้างหน้าในตอนกลางวัน ก็พอจะช่วยให้สิวลดลงหรือป้องกันไม่ให้สิวใหม่เกิดขึ้น
แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบ คงต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องใช้ปฏิชีวนะ (กินหรือทาแล้วแต่ความรุนแรงของสิว)
สิวอักเสบควรจะต้องรีบรักษา ถ้าไปแกะหรือบีบหนองออก จะเป็นรอยแผลเป็น บุ๋มตลอดไป รักษายากมาก
การนอนดึกทำให้สิวเพิ่มขึ้น ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิวอักเสบ อาจเป็นเพราะ
1.ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ Becteria ในสิวทำให้มีการอักเสบมากขึ้น
2.Hormone เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะใน ผู้หญิง ตัวอย่างเช่น บางคนประจำเดือน หรือขณะตั้งครรภ์
จะมีสิวเพิ่มขึ้น

สมุนไพรที่ใช้รักษาสิวได้แก่
ว่านหางจรเข้ล้างหน้าเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ใช้วุ้นจากใบสดทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก
ข้อควรระวัง ต้องล้างยางสีเหลืองจากขอบใบออกให้หมดก่อนใช้ เนื่องจากมีฤทธิ์ระคายเคืองมาก อาจทำให้เกิดการแพ้ สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย อาจทดลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนดูก่อน หากมีผื่นแดงหรือคันไม่ควรใช้ทาหน้า

11/12/2552

หัวไชเท้ารักษาฝ้า

หัวไชเท้า
แม้ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตายจะเป็นกฎของธรรมชาติ แต่เมื่อนึกถึงรอยย่นบนหน้าผากและตีนกาที่ฟ้องอายุของตัวเอง ความรู้สึกในใจก็ยากที่จะยอมรับเช่นกัน บางคนถึงกับต้องตระเวนไปหาร้านถ่ายรูปที่มีฝีมือแต่งหน้าแต่งผม แต่งตัวให้ดูดี ถึงขนาดถ่ายรูปออกมาแล้วคนในบ้านตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นรูปใคร ๆ ทุกปีอยู่แล้ว
แต่รูปถ่ายที่ลงทุนไปมากโขนี้มีประโยชน์ตรงที่เอาไว้ส่องแทนกระจกเท่านั้น เพราะอะไรที่เคยตึงก็เริ่มจะเหี่ยว ที่มีเงินหน่อยก็สามารถพบศัลยแพทย์ตัดโน่นดึงนี่เพื่อให้ดูตึงเหมือนเดิม ยิ่งมีข่าวประโคมถึงสมุนไพรตัวโน้นตัวนี้ช่วยให้ดูสวยดูดีก็ฮือฮากันไม่เลิก
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีนักวิชาการออกมาสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับกวาวเครือว่าสามารถทำให้อวัยวะบางอย่างอึ๋มขึ้น สาวน้อยสาวใหญ่ก็ให้ความสนใจกันไม่น้อยแม้แต่สาววัยทองทั้งหลายก็พยายามเสาะหามากิน ทั้งที่เลยวัยให้ลูกดูดนมไปแล้ว หารู้ไม่ว่าหัวกวาวเครือเอง มีข้อจำกัดในการกินมากมาย แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์
ปัจจุบันกวาวเครือไม่มีการปลูก ต้องเอามาจากป่าเท่านั้น อย่างไรก็ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในขณะนี้ได้ ประชาชนก็อาจจะได้กวาวเครือปลอมปน เผลอๆ ปนยาแผนปัจจุบัน อันตรายจะตายไป อย่าเสี่ยงดีกว่า
ที่จริงแล้วความแก่หรือไม่แก่มันอยู่ที่ใจ ถ้าจิตใจแจ่มใสกี่ปีผ่านไปก็ดูไม่แก่ จิตใจจะแจ่มใสได้ นอกจากจะทำใจให้เบิกบานแล้วร่างกายต้องแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าด้วย คงจะยากถ้าร่างกายเจ็บออดๆ แอดๆ สามวันดี สี่วันไข้แล้ว จิตใจจะยังสดใสอยู่ การออกกำลังกาย การกินอาหารที่ถูกต้องจึงมีส่วนเสริมสุขภาพกายและจิตเป็นอย่างมาก

เมนูอาหารของคนวัยทองมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หาได้ง่ายกว่ากวาวเครือมากนักคือ ไชเท้า ซึ่งเป็นผักที่สามารถซื้อหาได้ด้วยตัวเองไม่ต้องถูกใครต้ม
ไชเท้า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Raphanus sativus Linn. อยู่ในวงศ์ Crutiferae เป็นสมุนไพรที่มีอยู่ในตำรายาจีน (หรือแม้แต่ของฝรั่งก็ใช้สมุนไพรตระกูลเดียวกันในสรรพคุณเช่นนี้สมุนไพรที่ว่าคือ Horseradish) โดยแนะนำให้คนวัยทองนำหัวไชเท้าดิบมาหั่นซอยเป็นเส้นฝอยกินวันละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือมื้อละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง (ถ้ารู้สึกมีกลิ่นฉุนอาจรับประทานร่วมกับน้ำผึ้ง)
โดยเชื่อว่าจะทำให้ผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวล ดูเปล่งปลั่งเหมือนคนหนุ่มสาว ทั้งยังเชื่อว่าหัวไชเท้าช่วยกำจัดพิษ สามารถช่วยให้ปัสสาวะใส ไม่ขุ่น ช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยย่อย และช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น
หัวไชเท้าหรือผักกาดหัวมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน (เจ้าถิ่นที่ยังยืนหยัดเป็นหลักให้กับ เอเซียทั้งทางด้านการแพทย์ตะวันออกและค่าเงินหยวน) แต่ตอนหลังหัวไชเท้าก็แพร่หลายไปทั่วตามการอพยพย้ายถิ่นของคนจีน นิยมรับประทานเป็นอาหาร ใช้ทำเป็นแกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย หรือเอามาดองเค็ม ตากแห้ง ทำเป็นหัวไชโป๊ แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารกินกับข้าวต้มกุ๊ยได้อีกหลายๆ ตำรับ
ที่สำคัญคือเจ้าหัวไชเท้านี่มีสารโปรวิตามินเอ ที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเออยู่สูงมาก หัวไชเท้าจึงเป็นแหล่งวิตามินเอที่หาง่ายและราคาถูก
หัวไชเท้าเป็นอาหารที่ดีมาก ตำราจีนกล่าวว่าไชเท้ามีสรรพคุณในการกระจายสิ่งหมักหมมในร่างกาย ละลายเสมหะ แก้พิษ ลดความดัน ขยายหลอดลมและหลอดเลือด จึงควรเป็นอาหารที่อยู่ในเมนูของคนที่ป่วยเป็นโรคหวัด ไอเสียงแหบแห้ง ท้องขึ้นเนื่องจากอาหารไม่ย่อย คออักเสบเรื้อรัง
ตำรับยามีดังนี้ นำหัวไชเท้าสดมาคั้นน้ำแล้วเติมน้ำขิง เติมน้ำตาลทรายขาวพอหวาน ต้มให้เดือดแล้วจิบบ่อยๆ หรือนำหัวไชเท้ามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มน้ำดื่มแก้กระหาย รวมทั้งสามารถนำหัวไชเท้าสดมาตำให้แหลก คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทรายพอหวานรับประทาน
หรือนำไชเท้าหนึ่งหัวมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว โรยน้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาทิ้งไว้หนึ่งคืน รินน้ำรับประทานเป็นประจำ เหมาะกับคนที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอมีเสมหะ ไอหอบ
การทำเมนูอาหารบำรุงสุขภาพด้วยตัวเองจากสมุนไพรที่เรารู้จักเป็นอย่างดี รู้แน่ๆ ว่าไม่เป็นพิษเป็นภัย เป็นสิ่งที่คุ้มกว่าการไปตะเกียกตะกายหาสมุนไพรที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น เชื่อตามนักวิชาการที่บางทีก็ครึ่งๆ กลางๆ ในความรู้ ไม่รู้ทั้งแผนโบราณและแผนใหม่ ทำให้สังคมสับสนอลเวงไปหมด

หัวไชเท้า: ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางลง
ส่วนผสม
1.หัวไชเท้า 1 หัว(ขนาดเล็ก)
2.น้ำมะนาวสด 1 ช้อนแกง
วิธีทำ
ใช้หัวไชเท้าล้างน้ำให้สะอาด ทำการปอกเปลือก แล้วหั่นบางๆ นำไปปั่นให้พอละเอียด ใส่น้ำมะนาวประมาณ 1 ช้อนแกงปั่นรวมกันอีกครั้ง
วิธีใช้
ให้ทาทั่วผิวหน้า (ยกเว้นรอบดวงตาและปาก) ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้า และกระให้สีจางลง
 
Copyright ***สมุนไพรเพื่อความงาม*** 2009. Powered by Blogger.Designed by Ezwpthemes .
Converted To Blogger Template by Anshul .